เส้นใยไหม
คือ เส้นใยที่พ่นออกมาจากปากของตัวหนอนไหมที่โตเต็มวัย เพื่อมาห่อหุ้มตัวป้องกันศัตรูทางธรรมชาติในขณะที่หนอนไหมลอกคราบเป็นตัวดักแด้
และไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ขณะที่เป็นตัวหนอน ไหมจะเจริญเติบโตโดยการลอกคราบประมาณ
3-4 ครั้ง ในระยะเวลาประมาณ 20-22 วัน
และจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 10,000 เท่า
โดยการกินอาหารเพียงอย่างเดียว คือ ใบหม่อน
และเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะหยุดกินอาหาร แล้วพ่นเส้นใยออกมาห่อหุ้มตัวเอง
ที่เราเรียกว่า รังไหมซึ่งมีลักษณะกลมรีคล้าย เมล็ดถั่ว และหากเรานำรังไหมมาต้มในน้ำที่มีอุณหภูมิตั้งแต่
80oC ขึ้นไปจะสามารถทำให้กาวไหมอ่อนตัว
และดึงเส้นใยออกมาได้ ความยาวของเส้นใยจะขึ้นอยู่กับ สายพันธุ์ ดังแสดงในภาคผนวก ก
และการดูแลในช่วงที่เป็นหนอนไหม
โครงสร้างโมเลกุลเส้นใยไหม
ไหมเป็นเส้นใยโปรตีน (Protein Fibers) ซึ่งมีบางส่วนคล้ายกับขนสัตว์ โครงสร้างเส้นใยไหมแสดง ในภาพที่ 1 การชักใยของหนอนไหมจะเกิดจากส่วนบริเวณปาก
ซึ่งจะผลิต viscous substance ซึ่งเรียกว่า fibroin ออกมาจากต่อม 2 ต่อมรวมกัน ได้เป็นเส้นคู่ คลุมด้วย sericin ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวห่อหุ้ม และเป็นกาวยึดให้ fibroin
2 เส้นรวมกัน คุณสมบัติทั่วๆไปของ sericin จะเป็นสารแข็งสีเหลืองทึบแสง
หนักประมาณ 1/4 ของ fibroin ในส่วนของFibroin
เป็นเส้นใยที่ เรียกว่า fibrous protein ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนชนิดต่างๆ
กัน รวมกันเป็นพอลิเมอร์
1. เส้นใยไหมแบบแห้ง
และแบบเปียกมีความทนต่อแรงดึงที่ 27-35 g/tex และ 23- 45 g/tex
2.
เส้นใยไหมสามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ถึง 90% จาก 2% ที่ยืดออก
และ 30-35% จาก 20% ที่ ยืดออก
3.
เส้นใยไหมมีความแข็งปานกลาง
และมีสามารถอย่างดีเยี่ยมของการกลับคืนสู่สภาพเดิมจากการ
เปลี่ยนสภาพโดยอาศัยสภาวะของอุณหภูมิ
และความชื้น
4. เส้นใยไหมมีความถ่วงจำเพาะที่
1.25-1.30
5.
เส้นใยไหมมีความชื้นประมาณ 11% ภายใต้สภาวะพื้นฐาน
6.
เส้นใยไหมสามารถละลายได้ในสารละลาย Lithium Bromide, Phosphoric
acid และสารละลาย
Cuprammonium
7. เส้นใยไหมมีคุณสมบัติเป็นชนวนกันความร้อนได้เป็นอย่างดีดี
และมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยที่อุณหภูมิมากกว่า 150 0C และมีความต้านทานไฟฟ้า
คุณสมบัติทางเคมี
(Chemical
Properties)
1. เส้นใยไหมสามารถถูกทำลายด้วยสารละลายด่าง
และสามารถละลายได้อย่างรวดเร็วใน สารละลายที่มีตัวออกซิไดซ์ที่แรง เช่น สารประกอบไฮโปรคลอไรด์ (Hypochoride
compound) และมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยในสารละลายที่มีตัวรีดิวซ์
2. เส้นใยไหมสามารถต้านทานต่อการทำลายของเชื้อจุลินทรีย์
แต่รงควัตถุที่เป็นสีเหลือง และความแข็งแรงของเส้นใยไหมจะลดน้อยลงเมื่อสัมผัสกับแสง
3. เส้นใยไหมโดยทั่วไปจะมีองค์ประกอบที่เป็นดีบุก
และเกลือของโลหะ ซึ่งเกลือของโลหะจะทำให้เส้นใยไหมมีความไวต่อการออกซิไดซ์ของแสง
ส่วน
Sericin
เป็นสารโปรตีนเช่นเดียวกัน แต่เป็นส่วนที่เรียกว่า non –
fibrous material ต่างจาก fibroin
อย่างมาก ทั้งคุณสมบัติทางเคมี และฟิสิกส์ โดยประกอบด้วยกรดอะมิโนชนิดต่างๆ ถือเป็นสารสำคัญที่ต้องกำจัดออก
ก่อนนำไหมไปย้อมสี
นอกเหนือจาก fibroin และsericin แล้ว ไหมดิบยังประกอบด้วยแร่ธาตุบางอย่าง
ไขมันเล็กน้อย และน้ำ โดยมีเปอร์เซ็นต์ดังนี้ (ส่วนอุตสาหกรรมสิ่งทอ,
2540) sericin 22.0 – 25.0 %
fibroin 62.5 – 67.0 % น้ำ 10.0 – 11.0 % เกลือแร่ และอื่นๆ 1.0 – 1.5 %