เส้นด้ายที่ใช้สำหรับการทอผ้าโดยทั่วไปจะแบ่งเป็น
2 ชนิด คือ
1. เส้นยืน คือ เส้นด้ายชุดหนึ่งที่ขึงไว้กับกี่ตามแนวตั้ง
โดยสอดผ่านช่องฟืม และตะกอที่โยงไว้กับกี่ และไม้เหยียบ ถ้าเป็นไหม เรียก
ไหมยืนหรือไหมเส้นยืนหรือไหมเครือ ในการทอผ้า
ช่างทอจะต้องเตรียมเส้นด้ายยืนเอาไว้ก่อนเสมอ โดยอาจมีความยาวหลายสิบเมตร
ด้ายเส้นยืนมีความสําคัญในการทอผ้าไม่น้อยไปกว่าด้ายเส้นพุ่ง
เมื่อเริ่มทอแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนด้ายเส้นยืนได้จนกว่าจะทอไปตลอดผืนเสร็จ
เส้นยืนสีแดงที่ถูกติดตั้งบนกี่
ขั้นตอนการเตรียมเส้นยืน
1. คัดเลือกเส้นไหมทค่อนข้างเรียบ เส้นแข็งแรง
เหนียว ขนาดเหมาะสม นำมาฟอกทำความสะอาด ลอกกาว และย้อมสีเส้นไหม
2. ลงแป้ง และกรอเข้าหลอด
โดยการนำเส้นไหมกรอเข้าหลอด
พร้อมลงแป้งก่อนกรอ ดังนี้ นำเส้นไหมที่ผ่านการย้อมสีที่แห้งสนิทแล้ว นำมาชุบน้ำ
และลงแป้ง โดยอาจแช่ในน้ำข้าว หรือนำแป้งกลบไปมาให้เส้นไหมสัมผัสกับน้ำแป้ง จากนั้นนำขึ้นมาบีบน้ำออก
และบดให้แห้ง กระตุกให้เส้นด้ายคลี่ตัวออก และไม่ติดกันจึงนำไปผึ่งให้แห้งสนิท
เส้นไหมจะมีผิวเรียบ ต่อจากนั้นเอาเส้นไหมไปกรอเข้าหลอด
ระหว่างการกรอเข้าหลอดด้ายเส้นยืนซึ่งเป็นหลอดด้ายขนาดใหญ่ ต้องหมั่นตรวจสอบดูว่า
เส้นด้ายสม่ำเสมอดีไม่มีรอยคอด ที่จะทำให้ด้ายขาดเร็ว
และไม่มีปุ่มปมซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการทอ ถ้ามีต้องเอาออก และต่อให้เรียบร้อย
3. การเดินด้าย หรือ โว้นเครือ
เป็นขั้นตอนหลังจากกรอด้ายเข้าหลอดเรียบร้อยแล้ว
เป็นการจัดวางเส้นยืนให้เป็นรูปโครงของผืนผ้า มีการคำนวณความกว้างยาวของผืนผ้าที่ต้องการทอ
เพื่อสะดวกในการสอดฟันหวี โดยใช้เครื่องเดินด้าย (มาเดินด้าย)
ซึ่งมีราวขนาดใหญ่พอดีสำหรับบรรจุหลอดเส้นด้ายไหม และแคร่สำหรับเดินด้าย
ส่วนใหญ่สามารถเดินเส้นยืนได้ราว 200 หลา
เมื่อเดินด้ายหรือโว้นเครือได้ความยาวตามต้องการเสร็จเรียบร้อยแล้วต้องปลดเส้นยืนออกมาจากแคร่
และขมวดให้เป็นลูกโซ่หรือถกเป็นเปีย
เพื่อกันมิให้เส้นด้ายยุ่งพันกันหรือจะใช้วิธีเดินด้ายโดยไม่ใช้เครื่องก็ได
4. การหวี
คือ การแผ่เส้นจากลักษณะที่เป็นกำให้กระจายออก
และเรียบสม่ำเสมอตามความกว้างของฟันหวีกับเครือเส้นยืน
ในการหวีเส้นด้ายจำเป็นที่จะต้องใช้ผู้ปฏิบัติอย่างน้อย 2 คน คนหนึ่งม้วนกงพัน
อีกคนหวีด้ายให้เรียบร้อยและสม่ำเสมอกัน
5. การร้อยฟันหวี (ร้อยฟืม) เป็นการร้อยเส้นยืนเข้าชองฟันหวี
โดยวัดความยาวจากจุดกึ่งกลางของฟันหวีไปหาริม 2 ข้าง จากนั้น
จึงร้อยเส้นยืนเข้าชองฟันหวีตามความกว้างที่ต้องการ แต่ละชองฟันหวีร้อยสอดเส้นยืน
2 เส้น จนหมดด้ายหรือครบทุกชอง ช่องริมๆ อาจสอดด้าย 4 เส้นเพื่อให้ริมผ้าแข็งแรง
ไม่ม้วน
เมื่อเสร็จแล้วให้ผูกเข้ากับแกนของกงพันม้วนด้าย และนำไปขึงบนกี่เพื่อเก็บตะกอตอไป
ควรเลือกฟันหวีที่มีขนาดชอง และความกว้างเท่าที่ต้องการ
6. การนำด้ายขึงบนกี่ เมื่อเรานำด้ายที่หวี
และรอยฟันหวีเรียบร้อยตามความยาวที่ต้องการแล้ว มาขึงบนกี่ที่จะใช้ในการทอผ้า
โดยให้ปลายด้ายเส้นยืน(ปลายเครือ)ด้านหนึ่งม้วนเข้ากับไม้ม้วนด้ายหรือเครื่องม้วนด้ายยืนด้านหน้า
และปลายด้ายอีกด้านที่ติดกับฟืมให้ม้วนเข้ากับไม้ม้วนผ้าด้านหลัง
ควรดึงให้ตึงเสมอกันตลอดแนวหน้าผ้าขณะม้วนปลายเส้นด้ายพันรอบไม้
7. การเก็บตะกอ และผูกโยงตะกอ การเก็บตะกอ คือ การจัดเส้นด้ายยืนให้สามารถถูกยกขึ้นหรือถูกกดลงได้อย่างเป็นระบบเพื่อให้สอดด้ายเส้นพุ่งเข้าไปได้
เป็นการเก็บลวดลายหรือแบบที่เราต้องการทอ
จะเก็บตะกอได้เมื่อเรานำด้ายที่จะทอขึงขึ้นบนกี่เสร็จเรียบร้อยแล้ว
2. เส้นไหมพุ่ง คือ
เส้นด้ายที่พุ่งผ่านกระสวยที่ถูกกรอบนหลอดด้ายบรรจุในกระสวย
โดยเส้นพุ่งจะพุ่งในแนวนอนจากซ้ายไปขวา
และจากขวามาซ้ายผ่านเส้นยืนที่ยกสลับกันเมื่อเหยียบคานเหยียบ
การเตรียมเส้นพุ่งไม่ยุ่งยากเหมือนเส้นยืน
ไม่ต้องลงแป้งเนื่องจากไม่ต้องเสียดสีกับฟันหวีมากเหมือนเส้นยืน การเตรียมเส้นพุ่ง
มีขั้นตอนดังนี้ กรอเส้นด้ายหรือด้ายไหมที่ย้อมสีเรียบร้อยแล้วเข้าระวิง
และอักตามลำดับ
จากนั้นกรอจากอักเข้าหลอดโดยใช้หลาหรือไนเป็นอุปกรณ์ช่วยในการกรอด้ายเข้าหลอด
(ซึ่งจะทำให้เส้นกลมเรียบมากขึ้นไปในตัว) หรือ
อาจนำเส้นด้ายหรือเส้นไหมที่ย้อมสีแล้วมาควบ และตีเกลียวก่อนกรอเข้าหลอด ควรกรอด้ายเข้าหลอดพอประมาณ
คือไม่เต็มเกินไป จะทำให้ลำบากในการเข้ากระสวย
และติดขัดได้ในการพุ่งสอดด้ายขณะทอผ้า
เส้นพุ่งที่ถูกกรอไว้กับหลอดด้าย
กระสวยสำหรับใส่เส้นพุ่ง สอดพุ่งตามแนวนอนขัดกับเส้นยืน